แบบรายงานการดำเนินกิจกรรมโครงการโรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ระดับดาวดวงที่ 2

✅💯บทความนี้ วิทยฐานะแลกเปลี่ยนเรียนรู้✅💯

ขอแนะนำไฟล์ แบบรายงานการดำเนินกิจกรรมโครงการ

โรงเรียนคุณธรรม สพฐ. ระดับดาวดวงที่ 2

จากโรงเรียนวัดเทพสุธาวาส

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 1

เป็นไฟล์ PDF สรุปรายละเอียด ได้ดังนี้ ครับ

แบบรายงานการดำเนินกิจกรรมโครงการโรงเรียนคุณธรรม สพฐ.

โรงเรียนวัดเทพสุธาวาส

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 1

ข้อมูลด้านบริบทเบื้องต้น

สภาพแวดล้อม บรรยากาศของโรงเรียน และสภาพชุมชนใกล้เคียง

สภาพแวดล้อม

สภาพแวดล้อมของโรงเรียนวัดเทพสุธาวาส มีอาคารสถานที่ สะอาด สวยงาม มีสื่อเทคโนโลยีที่ ทันสมัย อุปกรณ์การสอน แหล่งเรียนรู้ภายในเหมาะสมกับบริบทของโรงเรียน และช่วยส่งเสริมให้นักเรียนเกิด การเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง

บรรยากาศของโรงเรียน

บรรยากาศของโรงเรียนมีความร่มรื่น อยู่ติดกับวัด ชุมชนและแม่น้ำท่าจีน มีพื้นที่โดยรอบ โรงเรียนยังมีพื้นที่สีเขียวอยู่โดยรอบ โรงเรียนมีพื้นที่สีเขียวให้นักเรียนได้เรียนรู้และเสริมประสบการณ์ ด้าน คุณธรรม จริยธรรม มีแหล่งเรียนรู้ ครบถ้วนสมบูรณ์

สภาพชุมชนใกล้เคียง

สภาพชุมชนรอบ ๆ โรงเรียน ให้การสนับสนุนสถานศึกษาในด้านต่าง ๆ ตามความสามารถที่จะ ช่วยเหลือได้ ให้ความร่วมมือโรงเรียนในการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม อยู่ในเกณฑ์ดี

สถานการณ์เสี่ยง/ ปัญหาด้านคุณธรรมของโรงเรียน

โรงเรียนวัดเทพสุธาวาส ไม่พบสถานการณ์เสี่ยงที่จะส่งผลให้เกิดปัญหาด้านคุณธรรมที่ร้ายแรง ปัญหาที่พบส่วนใหญ่เป็นปัญหาที่สามารถดำเนินการแก้ไขปรับปรุงได้อย่างทันท่วงที ทำให้สถานการณ์ใน ภาพรวมของโรงเรียนมีความเหมาะสมต่อการส่งเสริมพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมของนักเรียน ให้มีสภาพที่ เข้มแข็งต่อไป

โครงงานคุณธรรม นวัตกรรม สร้างสรรค์คนดีของโรงเรียนที่มีการทำอย่างต่อเนื่อง คือ สื่อสาร สร้างสรรค์เป็นกระบวนการที่ทำให้เกิดทักษะการสื่อสารโดยการสร้างสรรค์ของผู้เรียน ครูและชุมชนร่วมกัน ผ่านกระบวนการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมและโครงการภายในสถานศึกษา เพื่อให้เกิดทักษะและคุณลักษณะอัน ดีของผู้เรียน

1A การตั้งใจฟัง (Active Listening) การบูรณาการเรียนรู้

2A การพูดที่จะทำให้คนฟังเรา (Active Speaking) การบูรณาการสู่รายการหน้าเสาธง

3A การสื่อสารจากใจ (Active Talk from The heart) การทำกิจกรรมโครงงาน

4A พูดตรงแต่ยังคงสุภาพ (Active Straight talk) ชุมนุมส่งเสริมการอ่าน

5A ภาษากาย (Active Body language) แผนการจัดการเรียนรู้

เป็นกระบวนการที่จัดทำขึ้นตลอดปีการศึกษาทั้ง 5A ซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงความรู้ ทักษะและการเห็น ความสำคัญของการสื่อสารที่ประกอบด้วยการอ่าน การฟังและการพูดดังต่อไปนี้

1A การตั้งใจฟัง (Active Listening) กระบวนการบูรณาการการเรียนรู้ในแต่ละกลุ่มสาระของการ อ่าน การฟังและการพูด โดยเน้นที่การฟังเป็นหลักและกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยเป็นหัวใจของการ พัฒนาการสื่อสารเทคนิคในการฝึกเป็นผู้ฟังที่ดีคือ

1. ตั้งใจฟัง (Receive) ไม่ทำอย่างอื่น สบตาและมองหน้าคนพูด ระวังภาษากายและสนใจคนพูด

2. การตอบรับ (Appreciate) การพยักหน้า ทำให้คนพูดรู้ว่าเรากำลังสนใจและตั้งใจฟัง

3. สรุป (Summarize) ทวนคำพูดทำให้คนพูดรู้ว่าเราฟังเข้าใจ

4. ถามรายละเอียด (Ask) ในแง่มุมอื่นๆ ทำให้รู้ว่าเราสนใจเรื่องที่เค้าพูด

การฟังคือการตั้งใจ การเลือกที่จะได้ยินเสียง การดึงเอาเฉพาะเสียงที่เราต้องการ แล้วทำให้เสียงนั้น เกิดเป็นความหมาย เป็นทักษะที่เราเรียนรู้ ฝึกฝน และพัฒนาให้เป็นผู้ฟังที่ดีได้สังคมทุกวันนี้เป็นจุดเริ่มต้นของ การเข้าใจ 2A การพูดที่จะทำให้คนฟังเรา (Active Speaking) กระบวนการบูรณาการการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม หน้าเสาธงเพื่อเป็นการแสดงออกและเกิดทักษะการนำเสนอของการอ่าน การฟังและการพูด ที่มีความ ต่อเนื่องกันกับ 3A โดยเน้นที่การพูดเป็นหลักและกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยและกลุ่มสาระอื่น ๆ เข้ามามี ส่วนร่วมเพื่อเป็นหัวใจของการพัฒนาการพูดที่จะทำให้คนฟังเราคือ

1. การเตรียมการพูด โดยเกี่ยวข้องกับน้ำเสียงการพูดและทางกายภาพที่ผู้ฟังเป็นคนเห็นโดย ถ่ายทอดอย่างเป็นระบบและเชื่อมโยงทักษะในชีวิตประจำวันดังนี้

1.1 น้ำเสียงที่ใช้พูด

การใช้น้ำเสียงสูงและต่ำ เสียงดังและเบา สลับกันไปตามสถานการณ์ หรืออารมณ์ที่ต้องการจะ สื่อสารเช่น ถ้าหากเราจะเล่าเรื่องที่ดึงอารมณ์ ก็อาจจะเริ่มเล่าจะเสียงในระดับปานกลางไปจนถึงดังในช่วงที่ ต้องการจะเน้น เป็นต้น

1.2 สีหน้าในขณะพูด

สีหน้าเรียกได้ว่าเป็นอีกส่วนหนึ่งสำคัญในการพูด การที่จะให้ใครสักคนคล้อยตามกับเรื่องที่เรา พูด การต้องใช้สีหน้าในการแสดงออกที่ตรงต่อเรื่องที่จะเล่าให้เกิดอารมณ์ร่วมกัน รอยยิ้มสำคัญเสมอ เพราะ การยิ้มจะทำให้คนประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ถึงแม้จะยังไม่ได้เริ่มพูดเลยสักนิดก็ตาม

1.3 สอดแทรกอารมณ์ขัน

การแทรกเรื่องตลก ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจสำหรับการพูด ที่จะทำให้คนอยากจะฟัง เรื่องราวของเราต่อ ในขณะเดียวกันก็ควรจะเลือกใช้ให้ถูกและเหมาะสมกับสถานการณ์นั้น ๆ ด้วยเช่นกัน

1.4 ไม่พูดดูถูกคนอื่น

การพูดที่ส่งผลเชิงบวกกับผู้ฟังและเป็นการเปิดให้ผู้ฟังได้เปิดใจรับฟัง

2.การออกแบบการพูดเป็นการให้อิสระต่อการพูดที่มีโครงสร้างตามความคิดหรือสิ่งที่ผู้เรียนมี ประสบการณ์มาบูรณาการความรู้สู่การปฏิบัติ แต่จะมีรูปแบบหลัก ๆ ในการเล่าเรื่องคือ

ขั้นที่หนึ่ง การเปิดประเด็นสำคัญของเรื่องที่จะเล่าหรือจะนำเสนอ

ขั้นที่สอง การสรุปประเด็นสำคัญในการเล่ามานำเสนอให้ผู้ฟังรับรู้

ขั้นที่สาม การแสดงความคิดเห็นหรือการพูดถึงความรู้สึกต่อประเด็นที่นำเสนอ จะเห็นได้ว่า ผู้เรียนสามารถสร้างสรรค์ให้มีขั้นตอนที่หลากหลายและเกิดบรรยากาศของการเรียนรู้ ร่วมกันระหว่างครู ผู้เรียนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผลที่เกิดขึ้นคือ ผู้เรียนรักในการสื่อสารและมีคุณธรรมต่อการ สื่อสาร

3. ดำเนินการพูด เป็นลำดับที่ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้จากประสบการณืที่ได้พูดต่อหน้าผู้ฟัง และ การสร้างแรงบันดาลใจเป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาคุณธรรมในด้านการสื่อสารที่ต้องอาศัยการคิดกระบวนการที่ ผู้เรียนและครูร่วมกันสร้างและการยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้พูด ผู้ฟังและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง

4. สรุปการพูด เป็นลำดับสุดท้ายที่ให้ผู้เรียนสะท้อนคิดต่อการพูดและการออกแบบเพื่อเป็นองค์ ความรู้สรุปร่วมกันระหว่างผู้เรียนและครู ได้สร้างบรรยากาศของความอบอุ่นและการสร้างแรงจูงใจต่อการ สื่อสารที่ดีขึ้น

3A การสื่อสารจากใจ (Active Talk from The heart) เป็นกระบวนการที่ข้องกับการจัดการเรียนรู้ แบบใช้โครงงานเป็นฐาน (PROJECT-BASED LEARNING) การจัดการเรียนรู้ที่มีครูเป็นผู้กระตุ้นเพื่อนำความ สนใจที่เกิดจากตัวนักเรียนมาใช้ในการทำกิจกรรมค้นคว้าหาความรู้ด้วยตัวนักเรียนเอง นำไปสู่การเพิ่มความรู้ที่ ได้จากการลงมือปฏิบัติ การฟังและการสังเกตุจากผู้เชี่ยวชาญ โดยนักเรียนมีการเรียนรู้ผ่านกระบวนการ ทำงานเป็นกลุ่ม ที่จะนำมาสู่การสรุปความรู้ใหม่ มีการเขียนกระบวนการจัดทำโครงงานและได้ผลการจัด กิจกรรมเป็นผลงานแบบรูปธรรมที่สามารถผนวกอยู่ใน STEAM Design Process เป็นแนวทางการจัด การศึกษาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้และสามารถบูรณาการความรู้ 5 ศาสตร์สาระวิชาหลักๆเข้าด้วยกันคือ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม ศิลปะ และคณิตศาสตร์ เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดทักษะการเรียนรู้ที่สำคัญ ในศตวรรษที่ ๒๑ กระบวนการ STEAM Design Process 5 ขั้นตอน มีดังนี้

ขั้นที่ 1 Ask ตั้งคำถาม เป็นการใช้คำถามแบบปลายเปิด ให้ผู้เรียนสามารถมีความหลากหลายในการตอบ ด้วยการถาม จากประสบการณ์ หรือใกล้กับบริบทของท้องถิ่นนั้น ๆ เน้นคำถามที่เชื่อมโยงกับชีวิตจริง เป็นเรื่องใกล้ตัว ใกล้เคียงกับประสบการณ์ หรือภูมิความรู้เดิมของผู้เรียน เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน หรือประสบการณ์จากที่ บ้าน และโรงเรียน ใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้สร้าง หรือคิดค้นสิ่งใหม่ๆ โดยให้ผู้เรียนได้ใช้ความคิด วิเคราะห์ ค้นคว้าหาคำตอบ นำไปสู่การสร้างสรรค์ผลงานหรือการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้แสดงความ คิดเห็น เช่น การใช้คำถามที่ขึ้นต้น หรือลงท้ายด้วยประโยค ถ้า สมมติว่า เพราะอะไร หรืออย่างไร

ขั้นที่ 2 Imagine จินตนาการ เปิดโอกาสให้ผู้เรียนจินตนาการโดยไม่มีการปิดกั้น หลีกเลี่ยงคำพูดเชิงลบ ส่งเสริมจินตนาการ ผู้เรียนโดยการชวนพูดคุย ให้ผู้เรียนคิดว่าความคิดเขาเป็นสิ่งที่ไม่ผิด ในกรณีที่เป็นผู้เรียนเล็ก ไม่สามารถบอก ถึงการแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง ครูอาจจะมีตัวเลือก หรือพูดคุยชักชวนให้ผู้เรียนเกิดจินตนาการได้ สภาพแวดล้อมรอบตัวผู้เรียน หรือวัสดุอุปกรณ์ภายในห้องก็มีส่วนช่วยเสริมสร้างจินตนาการให้กับผู้เรียนเป็น อย่างมาก ทำให้สามารถนึกคิด และจินตนาการได้ง่าย

ขั้นที่ 3 Plan วางแผน ครูทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ ให้อิสระในการออกแบบ และวางแผน พยายาม กระตุ้นให้ผู้เรียนวางแผนการทำงานอย่างรอบคอบ และครอบคลุม มีการลำดับขั้นตอน และประเมินระยะเวลา ให้ชัดเจน การวางแผนสามารถทำเป็นแบบเขียน หรือวาดภาพ (สำหรับข้อจำกัดของผู้เรียนเล็ก หรือเขียน ไม่ได้) ถามถึงหลักการ และเหตุผล ความเป็นไปได้ของการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ ถ้าไม่มีอุปกรณ์ที่ผู้เรียน ต้องการในห้องเรียน บริบทหรือสิ่งแวดล้อมนอกห้องเรียนก็เป็นตัวช่วยส่งเสริมการวางแผน ในการเลือกใช้วัสดุ อุปกรณ์ หรือสามารถหาวัสดุอุปกรณ์อื่นมาทดแทนกันได้

ขั้นที่ 4 Create ลงมือทำ ในระหว่างที่ผู้เรียนทำกิจกรรม ครูควรชวนพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ส่งเสริมให้ผู้เรียนมี ความคิดสร้างสรรค์ หรือแก้ไขปัญหาที่พบเจอระหว่างการทำผลงาน ตั้งคำถามที่ท้าทาย ให้ผู้เรียนกล้าคิด กล้า ทำ สอดแทรกเรื่องการใช้วัสดุอุปกรณ์อย่างถูกวิธี การใช้สิ่งของที่มีอย่างรู้คุณค่า พร้อมส่งเสริมทักษะการ 6 ทำงานเป็นทีม ทักษะทางด้านอารมณ์และสังคม ให้ผู้เรียนได้ฝึกการคิด และลงมือทำอย่างเป็นขั้นตอน โดย สามารถถ่ายภาพหรือบันทึกวิดีโอเพื่อไว้เพื่อสะท้อนผลการทำงานได้ ถ้าผู้เรียนเจอปัญหาให้เผชิญปัญหา และ แก้ไขสถานการณ์เอง ครูควรคอยดู กระตุ้นให้ผู้เรียนรับฟังและช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่กดดันขณะผู้เรียน สร้างสรรค์ผลงาน เมื่อใกล้หมดเวลา แต่ผู้เรียนยังทำงานไม่เสร็จ ครูควรให้โอกาสผู้เรียนได้ต่อเติม หรือหาเวลา อื่นให้สร้างสรรค์ชิ้นงานตามที่ได้วางแผนไว้ ผลงานของผู้เรียนสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ เช่น แบบจำลอง โมเดล สารคดีหนังสือ แผนผัง ชิ้นงานหรือสื่อต่าง ๆ

ขั้นที่ 5 Reflect & Redesign คิดสะท้อนและออกแบบใหม่ ผู้เรียนสรุปงานตามที่ได้ลงมือทำจนสำเร็จ ครูให้กำลังใจ ชมเชย และเสริมแรงบวกให้ผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนมีกำลังใจ กล้าแสดงออก ฝึกให้ผู้เรียนแสดงความคิดเห็นจนเกิดความคุ้นชิน ไม่ประหม่า อาจจะ ทำได้หลายทางไม่ว่าจะเป็นการบอกเล่า การประเมินความคิดเห็นจากครู ผู้ปกครอง หรือเพื่อน สอบถามความ พึงพอใจ โดยให้ผู้เรียนประเมินชิ้นงานของตนเอง ถามถึงการพัฒนางาน ต่อยอดของชิ้นงานในครั้งต่อไป สอบถามปัญหาและอุปสรรคที่ผู้เรียนพบเจอระหว่างการดำเนินงาน ครูคอยใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิด การ คิด วิเคราะห์ แก้ไข และพัฒนา ปรับปรุงผลงาน นำไปสู่การต่อยอดผลงานที่ดียิ่งขึ้นต่อไป จะเห็นได้ว่าขั้นตอนท้ายจะเป็นการนำเสนอที่จะทำให้ผู้เรียนได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้อง และเชื่อมโยงสู่โลกภายนอกหรือชุมชนเข้ามาร่วมพัฒนาผู้เรียนจะทำให้ผู้เรียนเกิดคุณธรรมต่อการสื่อสารที่มี ความสำคัญต่อการดำเนินชีวิต

4A พูดตรงแต่ยังคงสุภาพ (Active Straight talk) เป็นกิจกรรมที่เชื่อมโยงมาจากชุมนุมส่งเสริมการ อ่าน โดยการรวบรวมข้อมูลและนำข้อมูลนั้น ๆ มาเล่าสู่กันฟังภายในชุมชน เป็นการกลั่นกรองคำอ่าน กลายเป็นคำพูดที่มีความตรงและสุภาพที่ต้องอาศัยการฝึกฝนและประสบการณ์ของผู้กลั่นกรองข้อมูล ซึ่งจะสื่อ ถึงคำพูดที่ว่า “คิดก่อนพูด”

5A ภาษากาย (Active Body language) เป็นการพัฒนาด้านบุคลิกภาพที่ผู้เรียนต้องอาศัยการทำอยู่ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้อยู่ในกระบวนการสอนทุก ๆ ขั้นตอนในสถานศึกษาและแผนการจัดการเรียนรู้บูรณาการ ทักษะทางมารยาทและชีวิต โดยกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษาและภาษาไทยเป็นองค์ความรู้หลักต่อการ ดำเนินกิจกรรมโดยมีแผนการจัดการเรียนรู้