รายงานผลการปฎิบัติที่ดี(Best Practice)การนิเทศภายในโรงเรียนแบบ3H

 





💗💗บทความนี้ วิทยฐานะแลกเปลี่ยนเรียนรู้💗💗




 จากโรงเรียนบ้านบกขี้ยาง

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1


เป็นไฟล์ PDF  สรุปรายละเอียด ได้ดังนี้ ครับ

         บูรชัย ศิริมหาสาคร กล่าวว่า Best Practice คือ วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ ในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จซึ่งเป็นผล มาจากการนำความรู้ไปปฏิบัติจริง แล้วสรุปความรู้และประสบการณ์นั้น เป็นแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดของตนเองซึ่งสามารถ เกิดขึ้นได้ในทุกหน่วยงานจากหลายช่องทางทั้งตัวผู้นำผู้ร่วมงานส่วนได้ส่วนเสียหรือภาวะปัญหาและการริเริ่มสร้าง สรรค์พัฒนาที่มีขั้นตอนเมื่อมีวิธีการทำงานที่ดีต้องทำผ่านการเล่าเรื่องที่เป็นการทำงานของตนเองมาแลก เปลี่ยนเรียนรู้ในลักษณะของการแลกเปลี่ยนข้ามสายงานข้ามหน่วยงานโดยเกิดขึ้นในระดับบุคคลระดับกลุ่ม และระดับหน่วยงานย่อย Best Practice ที่ได้ควรมีการบันทึกเขียนรายงาน เพื่อการศึกษา พัฒนาและเผยแพร่ได้ ซึ่งจะเกิดประโยชน์อย่างยิ่ง

         เอกสารรายงานฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อรวบรวมผลการปฏิบัติงานที่เป็นเลิศ (Best Practice) ซึ่งทางสถานศึกษาได้ดำเนินการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาทั้งด้านการบริหารจัดการด้านการจัดการเรียนการสอนและ ด้านผู้เรียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารรวบรวมผลงานฉบับนี้จะเป็นแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา ให้กับสถานศึกษาอื่นต่อไป

         ๑) ความสำคัญและความเป็นมา

                 การจัดการศึกษาของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต ๑ จากรายงานผลการนิเทศพบว่า กระบวนการนิเทศภายในโรงเรียนมีความแตกต่างกัน มีทั้งปัจจัยที่เอื้อและปัจจัย ที่เป็นอุปสรรคต่อการนิเทศ การนิเทศยังขาดความต่อเนื่องและความเป็นเอกภาพที่สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ เพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในยุคประเทศไทย ๔.๐ และการพัฒนาผู้เรียนให้มีทักษะและคุณลักษณะพื้นฐาน ของพลเมืองไทย มีทักษะและคุณลักษณะที่จำเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ นอกจากนั้นโรงเรียนยังมีความต้องการให้มี การพัฒนาระบบนิเทศภายในสถานศึกษาให้เข้มแข็งและต่อเนื่อง และจากผลการทดสอบทางการศึกษา ระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ของสำนักงานทดสอบทางการศึกษาองค์การ มหาชน ในภาพรวมมีคะแนนไม่ถึง ร้อยละ ๕๐ ในทุกกลุ่มสาระและทุกชั้น ยกเว้นกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ และชั้น มัธยมศึกษาปีที่ ๓ มีคะแนนสูงกว่าร้อยละ ๕๐ และผลการทดสอบความสามารถพื้นฐานของผู้เรียนระดับชาติ (NT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ พบว่า มีคะแนนสูงขึ้นทุกด้าน แต่มีคะแนนไม่ถึง ร้อยละ ๕๐ ยกเว้นความสามารถด้านภาษา และรายงานผลการทดสอบความสามารถด้านการอ่านออกของผู้เรียน (Reading Test) ปีการศึกษา ๒๕๖๑ ของสำนักทดสอบทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในระดับชั้นประถมศึกษา ปีที่ ๑ จำนวนโรงเรียนที่เข้าสอบ ๓๐,๕๕๑ โรงเรียน จำนวนนักเรียนที่เข้าสอบ ๗๖๐,๒๓๒ คน (ปกติ ๗๒๕,๔๒๔ คน พิเศษ ๓๔,๒๖๘ คน) พบว่า ในภาพรวมมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ ๖๘.๖๙

         จากเหตุผลดังกล่าว กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต ๑ จึงต้องการพัฒนาระบบการนิเทศภายในโรงเรียน เพื่อสร้าง ความเข้มแข็ง ของการนิเทศภายในโรงเรียนให้โรงเรียนสามารถพัฒนาและใช้หลักสูตรสถานศึกษา มีการ จัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โรงเรียนขนาดเล็กจัดการเรียนการสอนโดยใช้สื่อเทคโนโลยีทางไกล (DLTV/DLIT) แก้ไขปัญหาการอ่านออกเขียนได้ ดำเนินการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน และ ผดุงระบบการประกันคุณภาพการศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงได้จัดทำเอกสารแนวทางการนิเทศภายใน โรงเรียนโดยใช้ห้องเรียนเป็นฐานเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้สูงขึ้นต่อไป

         โรงเรียนบ้านบกขี้ยาง จึงมีแนวคิดที่จะยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สูงขึ้น จึงได้ศึกษา วิเคราะห์สังเคราะห์หารูปแบบการนิเทศ กำกับ ติดตาม ที่ส่งผลต่อคุณภาพการศึกษาอย่างแท้จริง โดยได้ ออกแบบแนวคิดการนิเทศภายใน แบบ 3H มาเป็นหลักคิด ในการทำงาน ซึ่งจะได้กล่าวต่อไป

         ๒) แนวคิดและหลักการ การพัฒนาคุณภาพการศึกษา กระบวนการนิเทศเป็นกระบวนการหนึ่งที่ส่งผลต่อการ พัฒนาคุณภาพการศึกษา (หน่วยศึกษานิเทศก์สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, ๒๕๖๒ : ๖)

         การพัฒนาคุณภาพการศึกษา จะสำเร็จได้ตามเป้าหมาย จำเป็นต้องมีองค์ประกอบ สำคัญในการพัฒนา คือ กระบวนการบริหาร กระบวนการจัดการเรียนรู้และกระบวนการนิเทศ ที่ต้องรวมกัน สนับสนุนส่งเสริมไปด้วยกันใน ลักษณะของ “เกลียวเชือก” กระบวนการนิเทศการศึกษา (supervision) เป็น กระบวนการที่ทำให้เกิดการพัฒนาและ ปรับปรุง กระบวนการเรียนการสอนของครูโดยมุ่งให้เกิดการจัดการ เรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพส่งผลถึงคุณภาพของผู้เรียน กระบวนการนิเทศการศึกษาช่วยทำให้เกิดการพัฒนาคน พัฒนางาน สร้างการประสานสัมพันธ์และขวัญกำลังใจ ซึ่งต้อง ดำเนินงานให้ประสานสัมพันธ์กับกระบวนการ อื่นในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้บรรลุตามเป้าหมาย ทำให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนถาวร ดังที่สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, ๒๕๔๙ : ๕๒) กล่าวว่าการจัดการที่ดีเป็นกุญแจนำไปสู่ความสำเร็จขององค์กรการนิเทศที่ดีนำไปสู่การจัดการที่ดี

         Maslow เชื่อว่าพฤติกรรมของมนุษย์เป็นจำนวนมากสามารถอธิบายโดยใช้แนวโน้มของ บุคคลในการค้นหาเป้าหมายที่จะทำให้ชีวิตของเขาได้รับความต้องการ ความปรารถนา และได้รับสิ่งที่มี ความหมายต่อ ตนเอง เป็นความจริงที่จะกล่าวว่ากระบวนการของแรงจูงใจเป็นหัวใจของทฤษฎีบุคลิกภาพของ Maslow โดยเขา เชื่อว่ามนุษย์เป็น “สัตว์ที่มีความต้องการ” (wanting animal) และเป็นการยากที่มนุษย์จะ ไปถึงขั้นของความพึงพอใจอย่างสมบูรณ์ในทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของ Maslow เมื่อบุคคลปรารถนาที่ จะได้รับความพึงพอใจ และเมื่อบุคคลได้รับความพึงพอใจในสิ่งหนึ่งแล้วก็จะยังคงเรียกร้องความพึงพอใจสิ่ง อื่นๆ ต่อไป ซึ่งถือเป็น คุณลักษณะของมนุษย์ ซึ่งเป็นผู้ที่มีความต้องการจะได้รับสิ่งต่างๆ อยู่เสมอ Maslow กล่าวว่าความปรารถนาของมนุษย์นั้นติดตัวมาแต่กำเนิดและความปรารถนาเหล่านี้จะเรียงลำดับขั้นของความ ปรารถนา ตั้งแต่ขั้นแรกไปสู่ความปรารถนาขั้นสูงขึ้นไปเป็นลำดับ ลำดับขั้นความต้องการของมนุษย์ ( The Need –Hierarchy Conception of Human Motivation ) Maslow เรียงลำดับความต้องการของมนุษย์ จากขั้นต้นไปสู่ความต้องการขั้นต่อไปไว้เป็นลำดับดังนี้๑. ความต้องการทางด้านร่างกาย ( Physiological needs ) ๒. ความต้องการความปลอดภัย ( Safety needs ) ๓. ความต้องการความรักและความเป็น เจ้าของ ( Belongingness and love needs ) ๔. ความต้องการได้รับความนับถือยกย่อง ( Esteem needs ) ๕. ความต้องการที่จะเข้าใจตนเองอย่างแท้จริง ( Self-actualization needs ) ลำดับขั้นความต้องการของ มาสโลว์มีการเรียงลำดับขั้นความต้องการที่อยู่ในขั้นต่ำสุดจะต้องได้รับความพึงพอใจเสียก่อนบุคคลจึงจะ สามารถผ่านพ้นไปสู่ความต้องการที่อยู่ในขั้นสูงขึ้นตามลำดับ

         ปัญญา ๓ ฐาน คือ ความสามารถในการทำงานของมนุษย์ ซึ่งสามารถอธิบายได้ โดยสมองในส่วนต่างๆ ได้แก่ ส่วนที่เกี่ยวข้องกับองค์ความรู้(cognitive domain), อารมณ์และความรู้สึก (affective domain) และทักษะ (psychomotor domain) โดยอาจเรียก 3 ส่วนนี้ว่า Head Heart Hand

          รูปแบบการนิเทศ แบบ 3H Heart (ใจ) Head (หัว) Hand (กาย) หมายถึง กระบวนการนิเทศการศึกษา ที่นำหลักคิดทางพฤติกรรม ความคิด และการทำงานของมนุษย์ในยุคปัจจุบัน มา ปรับประยุกต์ร่วมกับทฤษฎีแรงจูงใจ ของมาสโลว์ ๕ ขั้น และหลักของการบริหารในการพัฒนาสถานศึกษาให้มี ความยั่งยืน โดยมีเป้าหมายอยู่ที่คุณภาพของผู้เรียน มีรายละเอียด ดังนี้

๑. Heart (ใจ) คือ ความเข้าใจบริบท ข้อมูลพื้นฐานทุกมิติของโรงเรียนและชุมชนค้นหารากฐานของ ปัญหา มี๒ ขั้นตอน คือ

       ขั้นที่ ๑ เข้าใจปัญหา รู้ข้อมูลพื้นฐาน ความต้องการ สภาพปัญหาที่เกิดขึ้น นโยบาย เป้าหมาย ขององค์กรโรงเรียน และชุมชน

      ขั้นที่ ๒ เข้าใจบริบท ศึกษา รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล โรงเรียน ชุมชน เพื่อค้นหารากฐานของ ปัญหาที่แท้จริง การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันเพื่อแก้ไขปัญหา

๒. Head (หัว) คือ การสร้างการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในระดับต่างๆ โดยมุ่งสร้างความมั่นใจ ในกระบวนการพัฒนามากที่สุด มี๒ ขั้นตอน คือ

         ขั้นที่ ๓ ศึกษาวิธีการ กำหนดเป้าหมาย เลือกประเด็น แนวทางในการพัฒนา ด้วยการมีส่วนร่วม

          ขั้นที่ ๔ วางแผน ออกแบบ วางแผน ออกแบบกระบวนการพัฒนา ด้วยการมีส่วนร่วม

๓. Hand (กาย) คือ การสร้างทีมงาน การศึกษาดูงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้และฝึกปฏิบัติของโรงเรียน และชุมชน การให้คำแนะนำนิเทศ กำกับ ติดตาม และสนับสนุนมี๓ ขั้นตอน คือ

         ขั้นที่ ๕ ปฏิบัติ นำกระบวนการที่ได้วางแผน ออกแบบ ลงสู่การปฏิบัติด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม การให้คำแนะนำ นิเทศ กำกับ ติดตาม และสนับสนุน

           ขั้นที่ ๖ นำสะท้อนผล การเรียนรู้การทำงาน แลกเปลี่ยนเรียนรู้การปรับปรุงการทำงาน ให้ดีขึ้น PLC BAR AAR

         ขั้นที่ ๗ การพัฒนาให้ยั่งยืน การเสริมสร้างขวัญ กำลังใจ ให้มีจิตสำนึกในการพัฒนาสู่ความยั่งยืน





 จากโรงเรียนบ้านบกขี้ยาง

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1


เป็นไฟล์ PDF  สรุปรายละเอียดเป็นรูปภาพ ได้ดังนี้ ครับ















 จากโรงเรียนบ้านบกขี้ยาง

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 1


เป็นไฟล์ PDF  ดาวน์โหลดจากลิงค์ด้านล่างนี้ นะครับ





fullWidth
ใหม่กว่า เก่ากว่า