💓💓บทความนี้ วิทยฐานะแลกเปลี่ยนเรียนรู้💓💓
ขอแนะนำไฟล์ งานวิจัย 5 บท การพัฒนาแบบฝึกทักษะ
จากคุณครูสุรชาติ สุจริตจันทร์
โรงเรียนกุดตุ้มวิทยา
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1
เป็นไฟล์ Word แก้ไขได้
สรุปรายละเอียด ได้ดังนี้ ครับ
ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
ปัจจุบันการใช้ภาษาในการพูดและการอ่านออกเสียงในชีวิตประจำวันของคนไทยส่วนใหญ่ไม่ถูกต้อง ซึ่งสังเกตได้จากการที่ได้ยิน หรือได้ฟังจากสื่อมวลชน เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หรือการพูดคุยกันของคนในสังคมโดยเฉพาะการออกเสียงคำที่มี ร, ล, ว ควบกล้ำ ซึ่งปัญหานี้นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญทางด้านภาษาไทยต่างก็ให้ความเป็นห่วงว่าภาษาไทยไม่เคยมีวิบัติในตัวเองหาก แต่วิบัติเพราะคนใช้ไม่รู้จริงใช้ภาษาอย่างถูกๆ ผิดๆ จนทำให้ภาษาวิบัติ เนื่องจากคนไทยในปัจจุบัน มักจะพูดเสียงที่มี ร, ล, ว ควบกล้ำ และเสียง ร ไม่ได้ เช่น พูดคำว่า น้ำปลา เป็น น้ำปา, คุณครู เป็น คุณคู, หรือ ดีกว่า เป็น ดีฝ่า เป็นต้น
ปัญหาการใช้ภาษาไทยเป็นปัญหาที่เกิดมานานเปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์ในแต่ละยุค แต่ละสมัยและได้มีผู้เพียรพยายามที่จะรักษาความถูกต้องปลูกจิตสำนึกเพื่อรักษามาตรฐานของภาษาไทย
โดยดำเนินการแก้ไขการใช้ภาษาที่ผิด ๆ
ด้วยวิธีการอันหลากหลาย เพื่อส่งเสริมการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้องซึ่งที่ผ่านมานั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ภูมิพลอดุลยเดชมหาราชได้ทรงห่วงใยและเห็นความสำคัญของภาษาไทยจึงทรงมีพระราชดำรัสในที่ประชุมทางวิชาการของชุมนุมภาษาไทยคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 ว่า “ภาษานั้นเป็นเครื่องมืออย่างหนึ่งของชาติ
ภาษาทั้งหลายเป็นสิ่งที่สวยงามอย่างหนึ่ง เช่น ในทางวรรณคดี เป็นต้น ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องรักษาเอาไว้ให้ดี ประเทศไทยนั้นมีภาษาเป็นของเราเอง ซึ่งต้องหวงแหนประเทศใกล้เคียงของเราหลายประเทศมีภาษาของตนเองแต่ว่าเขาก็ไม่ค่อยแข็งแรง เขาต้องพยายามหาทางที่จะสร้างภาษาของตนเองไว้ให้มั่นคง
เราโชคดีที่มีภาษาของตนเองแต่โบราณกาลจึงสมควรอย่างยิ่งที่จะรักษาไว้
ปัญหาเฉพาะด้านในการรักษาภาษานี้มีหลายประการ อย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ ในทางออกเสียง คือให้ออกเสียงถูกต้องให้ชัดเจน อีกอย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในวิธี หมายความว่า วิธีใช้คำมาประกอบประโยคนับเป็นปัญหาสำคัญ ปัญหาที่สาม คือความร่ำรวยในคำของภาษาไทยที่พวกเรานึกว่าไม่ร่ำรวยพอ จึงต้องมีการบัญญัติศัพท์ใหม่มาใช้”
นอกจากนี้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช 2542 กระทรวงศึกษาธิการ ได้กําหนดหลักสูตรแกนกลางในทุกระดับการศึกษาของประเทศ ให้มีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระภาษาไทย ในทุกช่วงชั้น เนื่องจากเป็นพื้นฐาน ที่ทุกคนต้องได้รับการเรียนรู้พัฒนาทักษะในสาระการเรียนรู้ภาษาไทยมากกว่าสาระอื่นๆ ในหลักสูตรสถานศึกษาจึงได้กําหนดคุณภาพของผู้เรียน เมื่อจบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแล้วผู้เรียนต้องมีความรู้ความสามารถดังนี้
1. สามารถใช้ภาษาสื่อสารได้อย่างดี
2.
สามารถอ่าน เขียน ฟัง ดู และพูดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3.
มีความคิดสร้างสรรค์คิดอย่างมีเหตุผล และคิดอย่างเป็นระบบ
4. มีนิสัยรักการอ่าน การเขียน การแสวงหาความรู้ และใช้ภาษาในการพัฒนาตนเอง และสร้างสรรค์งานอาชีพ
5.
ตระหนักในวัฒนธรรมการใช้ภาษา และความเป็นไทย ภูมิใจ และชื่นชมในวรรณคดี และวรรณกรรม
ซึ่งเป็นภูมิปัญญาของคนไทย
6.
สามารถนําทักษะทางภาษามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และถูกต้องตามกาลเทศะ และบุคคล
7.
มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี และสร้างความสามัคคีในความเป็นชาติไทย
8.
มีคุณธรรมจริยธรรม มีวิสัยทัศน์ โลกทัศน์ที่กว้างไกล และลึกซึ้งตามหลักสูตรสถานศึกษา
การสร้างฐานภาษาไทยต้องเริ่มสร้างตั้งแต่เด็กเพราะนักเรียนระดับช่วงชั้นต้น ๆ ใช้ทักษะในการจําแนกประเภทของคํา และการใช้คําไม่คล่อง ขาดทักษะการสังเกต ขาดทักษะการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง และจะสะสมติดตัวไป เมื่อเรียนในชั้นสูงต่อไป จะมีคําต่าง ๆ ให้เรียนรู้มากขึ้น อาจทำให้สับสนได้เพราะวิชาภาษาไทยเป็นวิชาพื้นฐานของเด็กไทยที่จะต้องเรียนรู้และนําไปสู่การเรียนรู้ในวิชาการสาขาต่าง ๆ ซึ่งการสร้างทักษะด้านภาษาให้แน่นเหมือนตึกที่วางรากฐานดี โดยอาจจะช้าแต่ถ้าวางรากฐานดีแล้วการก่อสร้างส่วนบนก็ทำได้เร็วฐานของการเรียนภาษา คืออักขรวิธีที่เริ่มด้วยการรู้จักพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ อ่านออกเสียง หัดเขียน รู้จักแบบแผนตัวอักษร ฝึกคัดลายมือ สิ่งเหล่านี้จะช่วยแก้ปัญหาที่ว่าลูกศิษย์เขียนอะไรไม่เป็นเลย อ่านออกเสียงวรรณยุกต์ ตัว ร, ล, ว ควบกล้ำผิด ดังนั้นการแก้ไขปัญหาการอ่านและเขียนภาษาไทย ในขณะนี้เป็นปัญหาเร่งด่วน ที่ครูผู้สอนทุกคนไม่เฉพาะแต่ครูภาษาไทยเท่านั้นที่ ต้องร่วมมือร่วมใจกันแก้ไขเพื่อให้เยาวชนผู้เป็นอนาคตของชาติ มีการพัฒนา หรือได้รับการแก้ไขปัญหา ด้วยเหตุที่ว่า หากเยาวชนของไทยอ่านออกเสียงไม่ชัดเจน และไม่ถูกต้อง การเรียนรู้สรรพวิชาต่าง ๆ ก็ย่อมจะมืดมน เพราะทักษะการอ่าน เขียน เป็นทักษะพื้นฐานจำเป็นในการรับสาร ส่งสาร นอกเหนือจากทักษะฟัง ดู พูด ซึ่งผู้เรียนจำเป็นต้องใช้ในชีวิตประจำวัน โดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นกระบวนการที่มุ่งจัดประสบการณ์ให้เหมาะสมกับตัวนักเรียน เกื้อกูลต่อชีวิตจริง และฝึกฝนทักษะการนำความรู้ที่ได้จากการเรียนภาษาไทยไปใช้ในชีวิตประจําวัน เพื่อให้ผู้เรียนได้รับประโยชน์จากกิจกรรมการเรียนรู้อย่างแท้จริงโดยยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และถือว่าผู้เรียนมีความสําคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ (พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุธศักราช 2542, มาตรา 22)ด้วยเหตุผลดังกล่าวนี้
ผู้วิจัยจึงมีความสนใจที่จะสร้างแบบฝึกทักษะการเขียนสะกดคำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสะกดของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งเป็นทักษะพื้นฐานทางภาษาที่สำคัญในการศึกษาในชั้นสูงต่อไป
วัตถุประสงค์ของการรายงาน
1. เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะการเขียนสะกดคำ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน/ผลการเรียนรู้
เรื่อง การเขียนสะกดคำ ก่อน
และหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเขียนสะกดคำ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
3.
เพื่อศึกษาความสามารถ/ทักษะการสะกดคำที่สอนด้วยแบบฝึกทักษะการเขียนสะกดคำ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
4. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเขียนสะกดคำ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ขอบเขตของการรายงาน
ประชากร คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
กลุ่มเป้าหมาย
1 เพื่อการทดลองใช้ คือ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 9 คน โรงเรียนกุดตุ้มวิทยา อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชัยภูมิ เขต 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2551
กลุ่มเป้าหมาย
2 เพื่อการใช้นวัตกรรม คือ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 39 คน โรงเรียนกุดตุ้มวิทยา อำเภอเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชัยภูมิ เขต 1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2551
ตัวแปรที่ใช้ในการรายงาน
ตัวแปรต้น ได้แก่
แบบฝึกทักษะการเขียนสะกดคำ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ตัวแปรตาม
ได้แก่
1.
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน(ผลการเรียนรู้) เรื่อง ทักษะการเขียนสะกดคำ
2.
ทักษะ/ความสามารถเรื่อง
การเขียนสะกดคำ
3.
ความคิดเห็น/ความพึงพอใจ ของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเขียนสะกดคำ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
เนื้อหา/สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้
เสียงในภาษา(เสียงพยัญชนะท้ายพยางค์หรือเสียงสะกด) มาตราตัวสะกดในแม่
ต่างๆ เช่น
แม่กน แม่กก แม่กด
ระยะเวลา
ภาคเรียนที่
1 ปีการศึกษา 2551
ระหว่างวันที่ 2 มิถุนายน
2551 ถึง 11 กรกฎาคม
255
จำนวน 3 ชั่วโมง / สัปดาห์ รวม
18 ชั่วโมง
ขอแนะนำไฟล์ งานวิจัย 5 บท การพัฒนาแบบฝึกทักษะ
จากคุณครูสุรชาติ สุจริตจันทร์
โรงเรียนกุดตุ้มวิทยา
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1
เป็นไฟล์ Word แก้ไขได้
สรุปรายละเอียดเป็นรูปภาพ ได้ดังนี้ ครับ
ขอแนะนำไฟล์ งานวิจัย 5 บท การพัฒนาแบบฝึกทักษะ
จากคุณครูสุรชาติ สุจริตจันทร์
โรงเรียนกุดตุ้มวิทยา
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1
เป็นไฟล์ Word แก้ไขได้
ดาวน์โหลดไฟล์จากลิงค์ด้านล่างนี้ นะครับ