💕💕บทความนี้ วิทยฐานะแลกเปลี่ยนเรียนรู้💕💕
ไฟล์ PDFสรุปรายละเอียดพอสังเขป ได้ดังนี้ ครับ
หัวใจสำคัญของการบริหารสถานศึกษา ให้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ สนองนโยบายของชาติ และบรรลุวัตถุประสงค์ ของหลักสูตรนั้น ต้องอาศัยบุคลากรหลายฝ่ายด้วยกัน ทางโรงเรียนจึงกระจายอำนาจ การบริหารและมอบหมายงาน ให้บุคลากรได้ร่วมรับผิดชอบงานเป็นการระดมสมองและพลังความสามัคคีใน การปฏิบัติงาน ตามโครงสร้างการบริหารงานสถานศึกษาที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกำหนด งานใน สถานศึกษาเป็น 6 งาน คือ
1. งานวิชาการ
2. งานบุคลกร
3. งานธุรการ การเงิน และพัสดุ
4. งานกิจการนักเรียน
5. งานอาคารสถานที่
6. งานความสัมพันธ์ชุมชน เพื่อให้การบริหารงานในแต่ละฝ่ายมีความชัดเจน
บุคลากรแต่ละฝ่ายรู้บทบาทหน้าที่ที่ตนเอง รับผิดชอบ ตลอดจนเป็นไปในทางเดียวกัน
ทางโรงเรียนจึงจัดทำคู่มือในการปฏิบัติงานขึ้นมาโดยการศึกษาและ รวบรวมข้อมูลและนำมาปรับให้เหมาะสมกับสภาพของสถานศึกษา
ทางสถานศึกษาขอขอบคุณที่บุคากรทุก ท่านให้ความร่วมมือในไว้ ณ ที่นี้ด้วย
ขอบข่ายงานบริหารการศึกษา
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้กำหนดหน้าที่ของผู้บริหารสถานศึกษาไว้ดังนี้
1. งานวิชาการ
2. งานบุคลากร
3. งานด้านงบประมาณ
4. งานบริหารทั่วไป
4.1 งานกิจการนักเรียน
4.2 งานความสัมพันธ์ชุมชน
4.3 งานธุรการ
4.4 งานอาคารสถานที่ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น
ได้กำหนดหน้าที่ของผู้บริหารสถานศึกษาไว้ดังนี้
1. งานวิชาการ
2. งานบุคลกร
3. งานธุรการ การเงิน และพัสดุ
4. งานกิจการนักเรียน
5. งานอาคารสถานที่
6. งานความสัมพันธ์ชุมชน
บทบาทหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา
สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ
ได้กำหนดบทบาทหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่ง ผู้บริหารสถานศึกษาไว้เป็นข้อใหญ่ 8
ข้อดังนี้ (อ้างจากสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ,คู่มือ ดำเนินการพัฒนาบุคลกร,2545)
1. การวิเคราะห์นโยบายและสังเคราะห์งาน
1) วิเคราะห์นโยบายสู่การปฏิบัติงานในสถานศึกษา
2) กำหนดวิธีการและควบคุมการปฏิบัติงาน
การสั่งงาน การประสานงานและติดตาม ประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานในสถานศึกษา
2. การบริหารงานในสถานศึกษา
1) การบริหารสถานศึกษาตามระเบียบ
ข้อบังคับ คำสั่งของกรม กระทรวง รัฐมนตรีที่ เกี่ยวข้อง และรัฐบาล
2) บริหารบุคลากรในสถานศึกษา
3. การกำกับดูแลในสถานศึกษา
1) กำกับดูแลการจัดการศึกษาในสถานศึกษา
2) กำกับดูแลการจัดการเรียนการสอน
ให้เป็นไปตามหลักสูตรและได้มาตรฐาน
3) กำกับดูแลนักเรียนให้ประพฤติปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับที่กำหนด
4) กำกับดูแลการจัดทำแผนปฏิบัติการ
แผนกลยุทธ์ของสถานศึกษา
5) กำกับดูแลการบริหารงบประมาณ
และการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด รักษา ผลประโยชน์ของทางราชการ
4. การเป็นผู้นำ
1) เป็นผู้นำในการพัฒนาสถานศึกษา
2) เป็นผู้นำในการเสริมสร้างมนุษยสัมพันธ์
กับบุคคลทั้งภายในและภายนอกสถานศึกษา
3) เป็นผู้นำในการสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนและสถานศึกษา
5. การส่งเสริมและสนับสนุน
1) ส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษา
ค้นคว้า และวิจัย
2) ส่งเสริมสนับสนุนการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอน
คู่มือการบริหารสถานศึกษา
3) ส่งเสริมสนับสนุนกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างและพัฒนาคุณธรรมค่านิยมและคุณลักษณะอัน
พึงประสงค์ของสังคม 4) ส่งเสริมสนับสนุนการจัดสวัสดิการก่บุคลากรในสถานศึกษา
5) ส่งเสริมสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรในสถานศึกษา
6. การรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปีต่อกรมต้นสังกัด
หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเปิดเผยต่อ สาธารณชน
7. เสนอแนะข้อคิดเห็นในการปรับปรุงพัฒนางาน
ระเบียบ และข้อปฏิบัติต่อกรมต้นสังกัด
8. ปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมาย
มาตรฐานวิชาชีพของผู้บริหาร (คุรุสภา)
มาตรฐานที่ 1
ปฏิบัติกิจกรรมทางวิชาการเกี่ยวกับการพัฒนาวิชาชีพบริหาร
มาตรฐานที่ 2
ตัดสินใจปฏิบัติกิจกรรมต่างๆโดยคำนึงถึงผลที่จะเกิดขึ้นกับการพัฒนา
ของบุคลากร ผู้เรียน ชุมชน มาตรฐานที่ 3 มุ่งมั่นพัฒนาผู้ร่วมงานให้สามารถปฏิบัติงานได้เต็มศักยภาพ
มาตรฐานที่ 4
พัฒนาแผนงานขององค์กร ให้สามารถปฏิบัติได้เกิดผลจริง
มาตรฐานที่ 5
พัฒนาและใช้นวัตกรรมการบริหารจนเกิดผลงานที่มีคุณภาพสูงขึ้นเป็นลำดับ
มาตรฐานที่ 6
ปฏิบัติงานขององค์กรโดยเน้นผลถาวร
มาตรฐานที่ 7
รายงานผลการพัฒนาคุณภาพการศึกษาได้อย่างเป็นระบบ
มาตรฐานที่ 8
ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี
มาตรฐานที่ 9
ร่วมมือกับชุมชนและหน่วยงานอื่นอย่างสร้าวสรรค์
มาตรฐานที่ 10
แสวงหาและใช้ข้อมูลข่าวสารในการพัฒนา
มาตรฐานที่ 11
เป็นผู้นำและสร้างผู้นำ
มาตรฐานที่ 12
สร้างโอกาสในการพัฒนาได้ทุกสถานการณ์
การบริหารวิชาการ การบริหารวิชาการ
เป็นการจัดกิจกรรมทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวกับการปรับปรุงพัฒนาการเรียนการสอน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ได้ผลดี
และมีประสิทธิภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียน หลักการและกระบวนการบริหารงานวิชาการ
1. จัดทำแผนงานวิชาการที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์หรือนโยบายหลัก
2. การบริหารงานวิชาการมุ่งความร่วมมือการทำงาน
3. การมีเอกภาพในจุดมุ่งหมาย
จะทำให้การดำเนินการสอดคล้องสัมพันธ์และเป็นไปในทิศทาง เดียวกัน
4. ควรกระจายอำนาจไปให้ผู้ปฏิบัติ
5. ส่งเสริมให้ผู้ร่วมงานปรับปรุงตนเองด้วยวิชาการ
6. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
และการพัฒนางานดำเนินไปได้ด้วยดี
7. การมีวินัยของบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับงานวิชาการจะสามารถทำให้งานดำเนินไปได้ด้วยดี
8. ผู้บริหารควรใช้เทคนิคส่งเสริมคนอื่นมากกว่าการสอนคนอื่น
9. บุคลากรทุกคนต้องการขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน
10. ควรมีคณะกรรมการประสานงานวิชาการ
11. ให้ครูตั้งวัตถุประสงค์และจุดมุ่งหมายของการสอนทุกวิชาที่รับผิดชอบ
12. การประสานงานความสามัคคี
ความมีมนุษยสัมพันธ์ และความร่วมมือย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จ ของหน่วยงาน 13.
การติดตามประเมินผล เป็นสิ่งจำเป็นในการบริหารงานวิชาการ
14. การบริหารงานเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์
ดังนั้นการบริหารวิชาการจำเป็นต้องใช้ทั้งศาสตร์ ศิลป์ ทักษะ และเทคนิคในการบริหารงาน
1. หลักสูตรและการบริหารหลักสูตร
ประกอบด้วย
1.1 หลักสูตรสาระการเรียนรู้
ของหลักสูตรและการจัดระบบ สถานศึกษาต้องจัดทำสาระการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับสภาพปัญหาของชุมชนและ
สังคมและคำนึงถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น สาระการเรียนรู้มี 8 กลุ่มสาระหลัก
เพื่อเสริมสร้างการคิด การเรียนรู้และ การแก้ปัญหา
ตลอดจนการเสริมสร้างความเป็นมนุษย์ ศักยภาพพื้นฐานในการคิด การทำงาน และการพัฒนา ตนเอง
1.2 การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ การพัฒนากระบวนการเรียนรู้หรือที่เรียกว่า
การปฏิรูปการเรียนรู้ ครูต้องยึดผู้เรียนเป็นสำคัญเปิด โอกาสให้ผู้เรียนได้ฝึกคิดวิเคราะห์และศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองฝึกให้ผู้เรียนมีประสบการณ์การเรียนรู้ด้วย
ตนเอง รู้จักวิธีคิดวิธีการดำเนินชีวิตและมีทักษะในการเผชิญกับปัญหาต่างๆได้
1.3 สื่อการเรียนรู้เป็นสิ่งจำเป็นช่วยให้ครูและผู้เรียนปฏิบัติกิจกรรมการเรียนการสอนได้
สะดวกยิ่งขึ้น เช่น เอกสารหลักสูตร คู่มือครู บันทึกการสอน แหล่งเรียนรู้ทุกรูปแบบ
เทคโนโลยีต่างๆ
1.4 การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้
เป็นองค์ประกอบที่ช่วยตรวจสอบคุณภาพผู้เรียน ผู้เรียนมีความก้าวหน้าทั้งด้านความรู้
ทักษะกระบวนการ คุณธรรมค่านิยมที่พึงประสงค์ การประเมิน แบ่งเป็น 3 ระดับ คือ
- การประเมินผลระดับชั้นเรียนเป็นหน้าที่ของครูผู้สอน
- การประเมินผลระดับสถานศึกษา
เป็นการตรวจสอบความก้าวหน้ารายปีและช่วง ชั้นของสถานศึกษา
- การประเมินผลระดับชาติ
ผู้เรียนทุกคนต้องเข้าประเมินผลระดับชาติในช่วงชั้นที่ 1 ชั้นประถมศึกษาปีที่
3 และช่วงชั้นที่ 2 ชั้นประถมศึกษาปีที่
6
2. การวิจัยในชั้นเรียน ผลจากการประเมินผู้เรียน
ทำให้ครูทราบข้อบกพร่องของผู้เรียนแต่ละคนและคิดหาวิธีพัฒนา ผู้เรียน
วิธีแก้ผู้เรียนอย่างเป็นระบบ ได้แก่การนำเอาวิจัยมาใช้เพื่อแก้ปัญหา ที่เรียกว่า
วิจัยในชั้นเรียน (Classroom Research) คู่มือการบริหารสถานศึกษา
3. การสอนซ่อมเสริม เป็นอีกวิธีหนึ่งในการแก้ข้อบกพร่อง
และเสริมทักษะการเรียนรู้แก่ผู้เรียนเมื่อครูพบว่า ความสามารถของผู้เรียนไม่บรรลุตามผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง
หรือสำหรับผู้เรียนที่ต้องการความช่วยเหลือกรณี พิเศษ วิธีสอนซ่อมเสริมมีหลายวิธี
เช่น การสอนแบบตัวต่อตัว การสอนแบบกลุ่มย่อย นักเรียนเก่งสอน นักเรียนอ่อน
สอนโดยบทเรียนสำเร็จรูป ให้ทำแบบฝึกหัด หรือเรียนด้วยตนเอง ฯลฯ
4. การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร การจัดกิจกรรมเสริมหลักสูตร
เป็นวิธีการช่วยพัฒนาคุณลักษณะและนิสัยใจคอของผู้เรียนให้ เป็นคนดีมีความเสียสละมีความซื่อสัตย์
กตัญญู มีความเมตตากรุณา รักใคร่กลมเกลียว สมัครสมาน สามัคคีมี วินัย
มีภาวะของการเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี กิจกรรมต่างๆ เช่น
กิจกรรมส่งเสริมประชาธิปไตยกิจกรรม ห้องสมุด ฯลฯ
5. การนิเทศภายในสถานศึกษา เป็นความพยายามที่จะปรับปรุงส่งเสริมประสิทธิภาพการเรียนการสอน
ภายในสถานศึกษา ให้ดีขึ้น เป็นการเพิ่มพลังการปฏิบัติงานของครู
ทำให้ครูสอนได้ตรงเป้าหมาย ทำให้ความเคลื่อนไหวทาง วิชาการของสถานศึกษาเป็นไปอย่างมีระบบและต่อเนื่อง
ทำให้บุคลากรเห็นความสำคัญของงานวิชาการช่วย ให้สถานศึกษาแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น กิจกรรมการนิเทศ
ดำเนินการได้หลายอย่าง การนำมาใช้ควรคำนึงถึงสภาพปัญหา และความต้องการ ของสถานศึกษา
เช่น การประชุม อบรม ปฐมนิเทศ การสังเกตการณ์สอน การศึกษาเอกสารทางวิชาการ การ ให้คำปรึกษาเป็นรายกลุ่มรายบุคคล
การสัมมนา ฯลฯ
6. การประกันคุณภาพการศึกษา พ.ร.บ.
การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ได้กำหนดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษา
เพื่อพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาทุกระดับ
สถานศึกษาจึงต้องจัดให้มีการประกันคุณภาพภายใน สถานศึกษา
โดยให้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการบริหาร การศึกษา ที่ต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและ
สถานศึกษาจำเป็นต้องรายงานประจำปีเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด