งานวิจัยเรื่องลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตชั้นประถมศึกษาปีที่5

 






จาก ครูพรพรรณ  ปิ่นเงิน  โรงเรียนอนุบาลพระสมุทรเจดีย์

ไฟล์ Word  สรุปรายละเอียดพอสังเขป ได้ดังนี้ ครับ

 

 

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

          การจัดการศึกษาในประเทศไทยกำลังประสบปัญหาสำคัญอย่างมาก จากการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนจากหน่วยงานต่างๆ และผลการประเมินดังรายงานประจำปีของ World Economic Forum พบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนไทยส่วนใหญ่โดยเฉพาะวิชาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ยังไม่ดีเท่าที่ควร นักเรียนยังขาดทักษะการคิดวิเคราะห์ ซึ่งการสอนในปัจจุบันมุ่งเน้นแต่การให้ความรู้ความจำ เพื่อใช้ในการสอบ ยังไม่สอนให้นักเรียนเกิดทักษะการคิดขั้นสูง ไม่มีการเชื่อมโยงความรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหา ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน เพื่อเตรียมคนไทยรุ่นใหม่ ให้มีความสามารถในการดำรงชีวิต ประกอบอาชีพ สร้างเศรษฐกิจ และสามารถดำเนินชีวิตก้าวทันโลกปัจจุบันต่อไป (ยีน ภู่วรวรรณ, 2557)

วิทยาศาสตร์ หมายถึง ความรู้ที่ได้โดยการสังเกต และค้นคว้าจากปรากฏการณ์ ธรรมชาติ แล้วจัดเข้าเป็นระเบียบ  (ราชบัณฑิตยสถาน. 2546 : 1075) วิทยาศาสตร์ หมายถึง ความรู้ที่ทดลอง หรือพิสูจน์ได้ว่า ถูกต้องตรงความจริง จัดไว้เป็นหมวดหมู่ มีระเบียบ และขั้นตอน สรุปได้เป็นกฎเกณฑ์สากล (เติมศักดิ์  เศรษฐวัชราวนิช. 2540 : 1) เรนเนอร์ และสแตฟฟอร์ด (Renner and Stafford. 1972 อ้างถึงในภพ เลาหไพบูลย์.2537 : 1) ให้ความหมายวิทยาศาสตร์ว่า วิทยาศาสตร์ต้องเกี่ยวข้องกับ ประสบการณ์ตรงมีการสืบค้น หรือการสังเกตปรากฏการณ์ธรรมชาติ และมีการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วย และวิทยาศาสตร์ ต้องมีการ จัดกระทำ และการตีความหมาย ข้อมูลที่รวบรวมได้ โดยใช้วิธีการที่มีเหตุผล นอกจากนี้ วิทยาศาสตร์ต้อง มีการสร้างสรรค์ มีความพยายามที่จะอธิบาย และเข้าใจธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ  โดยสรุปวิทยาศาสตร์ คือ การแสวงหาความจริง เกี่ยวกับธรรมชาติ ด้วยวิธีการที่มีเหตุผล เพื่อเข้าใจธรรมชาติ และอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างสร้างสรรค์ และมีความสุข วิทยาศาสตร์คือ วิชาที่ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับธรรมชาติ ทั้งที่มีชีวิต และไม่มีชีวิต เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างส่วนต่าง ๆ ในธรรมชาติ ในสภาพนิ่ง หรือสภาพที่มีการ เปลี่ยนแปลง ตามกาลเวลา และตามสภาพการกระตุ้นทั้งจากภายใน หรือจากสภาพภายนอก การศึกษาทางวิทยาศาสตร์ มีจุดมุ่งหมายเพื่อแสวงหาความรู้อย่างเป็นระบบ จากการสังเกต ตั้งข้อสมมุติฐาน พิสูจน์สมมุติฐาน ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น การทดลองวิเคราะห์ บนรากฐานของเหตุผล ความรู้ หรือข้อเท็จจริง ที่ได้นั้น ๆ สามารถนำมาตั้งเป็นทฤษฎีได้

          จากสภาพปัญหาการเรียนในปัจจุบัน การพัฒนาการจัดกระบวนการเรียนรู้จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ดี ย่อมทำให้นักเรียนประสบผลสำเร็จตามเป้าประสงค์ของหลักสูตรที่มุ่งเน้นให้นักเรียนได้เป็นผู้ค้นพบความรู้ ด้วยตนเองมากที่สุด ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผู้วิจัยจึงได้เกิดแนวคิดที่จะพัฒนากระบวนการเรียนรู้ เพื่อแก้ปัญหาให้นักเรียนที่ยังเรียนวิชาวิทยาศาสตร์อย่างไม่เข้าใจและไม่มีทิศทางได้เข้าใจเนื้อหาสาระและกระบวนการต่าง ๆ ทางวิทยาศาสตร์ และไม่ชอบวิชาวิทยาศาสตร์ เพื่อที่จะได้นำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน การศึกษาต่อและการประกอบอาชีพ พร้อมกับปลูกจิตวิทยาศาสตร์ ผู้วิจัยได้เลือกนวัตกรรมหลายๆ อย่าง และนวัตกรรมที่ผู้วิจัยคิดว่าน่าจะแก้ปัญหาเรื่องการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ได้เป็นอย่างดีวิธีหนึ่งคือการนำกระบวนการการเรียนรู้เชิงรุก และการสอนแบบโครงงาน (Project- Based Learning) ด้วย POP MODEL (Predict Observe Project)  เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจ ส่งเสริมทักษะกระบวนการคิดขั้นสูง อีกทั้งกิจกรรมเชิงรุกจะทำให้นักเรียนเกิดความกระตือรือร้นในการจะทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น และเกิดการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเองผ่านการทำโครงงาน และเกิดจิตวิทยาศาสตร์

 

วัตถุประสงค์ของงานวิจัย

          1. เพื่อพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการสอนแบบโครงงาน (Project- Based Learning) ด้วย POP MODEL ที่เหมาะสมกับสภาพการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์

          2. เพื่อศึกษาผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการสอนแบบโครงงาน (Project- Based Learning) ด้วย POP MODEL เรื่องลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิต ของบทเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

 

คำถามการวิจัย

          1. การใช้กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการสอนแบบโครงงาน (Project- Based Learning) ด้วย POP MODEL ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นอย่างไร

          2. การใช้กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการสอนแบบโครงงาน (Project- Based Learning) ด้วย POP MODEL สามารถพัฒนาความรู้ความเข้าใจ เรื่องลักษณะทางพันธุกรรม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้หรือไม่อย่างไร


ขอบเขตการวิจัย

          1. กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 119 คน ปีการศึกษา 2563 ในโรงเรียนอนุบาลพระสมุทรเจดีย์

          2. เนื้อหาวิชาที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 (ปรับปรุงพุทธศักราช 2560)  ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่องแรงลัพธ์

          3. ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ใช้เวลารวม 4 สัปดาห์

          4. ตัวแปรที่ศึกษา

                     4.1 ตัวจัดกระทำ คือการกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการสอนแบบโครงงาน (Project- Based Learning) ด้วย POP MODEL

                     4.2 ตัวแปรที่ศึกษา คือ

                               4.2.1 กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการสอนแบบโครงงาน (Project- Based Learning) ด้วย POP MODEL เรื่องลักษณะทางพันธุกรรม

                             4.2.2 ผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้เชิงรุกและการสอนแบบโครงงาน (Project- Based Learning) ด้วย POP MODEL ด้านความรู้ความเข้าใจ       

           

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการวิจัย

          การศึกษานี้จะเกิดประโยชน์แก่

          ครู : ได้วิธีการสอนที่เหมาะสม

          นักเรียน : นักเรียนมีจิตวิทยาศาสตร์ และเกิดการสร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง


นิยามคำศัพท์ :

          1. การจัดการเรียนรู้เชิงรุก คือกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้ลงมือกระทำและได้ใช้กระบวนการคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาได้กระทำลงไป เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภายใต้สมมติฐานพื้นฐาน 2ประการคือ 1) การเรียนรู้เป็นความพยายามโดยธรรมชาติของมนุษย์ และ 2) แต่ละบุคคลมีแนวทางในการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน โดยนักเรียนจะถูกเปลี่ยนบทบาทจากผู้รับความรู้(receive) ไปสู่การมีส่วนร่วมในการสร้างความรู้(co-creators)

การจัดการเรียนรู้เชิงรุก หรือ Active Learning จึงเป็นกระบวนการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดการสร้างสรรค์ทางปัญญา(Constructivism) ที่เน้นกระบวนการเรียนรู้มากกว่าเนื้อหาวิชา เพื่อช่วยให้ผู้เรียนสามารถเชื่อมโยงความรู้

หรือสร้างความรู้ให้เกิดขึ้นในตนเอง ด้วยการลงมือปฏิบัติจริงผ่านสื่อหรือกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีครูผู้สอนเป็นผู้

แนะนำ กระตุ้น หรืออำนวยความสะดวก ให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ขึ้น โดยกระบวนการคิดขั้นสูง กล่าวคือ

นักเรียนมีการวิเคราะห์ สังเคราะห์ และการประเมินค่าจากสิ่งที่ได้รับจากกิจกรรมการเรียนรู้ ทำให้การเรียนรู้

เป็นไปอย่างมีความหมายและนำไปใช้ในสถานการณ์อื่นๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ

          2. การสอนแบบโครงงาน (Project- Based Learning) คือ การเรียนรู้ที่จัดประสบการณ์โดยลงมือปฏิบัติงานจริงอย่างมีระบบให้แก่ผู้เรียนเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์ตรง โดยมีครูเป็นผู้กระตุ้นเพื่อนำความสนใจที่เกิดจากตัวผู้เรียนมาใช้ในการเรียนรู้ ซึ่งเป็นการจัดการเรียนรู้แบบ Active Learning

          3. POP MODEL (Predict Observe Project)  คือรูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมาโดย มีรูปแบบการสอนแบบผสมผสาน 3 ขั้นตอน

                  3.1 ขั้นทำนาย (Predict)   เป็นขั้นที่ให้นักเรียนทำนายเกี่ยวกับปรากฏการณ์ต่างๆ หรือทำนายผลการทดลองที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยที่นักเรียนต้องให้เหตุผลเกี่ยวกับคำทำนายของนักเรียนด้วย

3.2 ขั้นสังเกต (Observing)  เป็นขั้นที่นักเรียนต้องลงมือทำการทดลอง หรือพิสูจน์ หาคำตอบเกี่ยวกับสิ่งที่ทำนายไว้ โดยการทดลอง หรือพิสูจน์ นักเรียนเป็นผู้ออกแบบการทดลองหรือวางแนวทางการพิสูจน์ตามความต้องการของนักเรียน

3.3 ขั้นโครงงาน (Project)  เป็นขั้นที่นักเรียนต้องนำความรู้จากการสังเกต การทดลอง การรวบรวมข้อมูลหรืออื่นๆ มาจัดกระทำข้อมูล จัดทำโครงงาน หรือนำมาใช้ในรูปแบบสารสนเทศ




จาก ครูพรพรรณ  ปิ่นเงิน  โรงเรียนอนุบาลพระสมุทรเจดีย์

สรุปรายละเอียดเป็นรูปภาพพอสังเขป ได้ดังนี้ ครับ

 

 












จาก ครูพรพรรณ  ปิ่นเงิน  

โรงเรียนอนุบาลพระสมุทรเจดีย์

ไฟล์ Word  แก้ไขได้

ดาวน์โหลดจากลิงค์ด้านล่างนี้ นะครับ




fullWidth
ใหม่กว่า เก่ากว่า