การพัฒนาสมรรถนะการอ่านขั้นสูงโดยใช้เทคนิคบันได 6 ขั้น





💖💖สวัสดีพี่น้องเพื่อนครูทุกๆ ท่านครับ💖💖 


         พบกับผมเช่นเคยครับ  บทความนี้จะมาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในหัวข้อการพัฒนา

สมรรถนะการอ่านขั้นสูงโดยใช้เทคนิคบันได 6 ขั้น สู่ความสำเร็จในการอ่านจับใจความ

สำคัญ กับพี่น้องเพื่อนครูทุกๆ ท่านครับ ซึ่งมีเนื้อหาใจความสำคัญดังนี้ ครับ


การพัฒนาสมรรถนะการอ่านขั้นสูงโดยใช้เทคนิคบันได 6 ขั้น 

สู่ความสำเร็จในการอ่านจับใจความสำคัญ

         การจับใจความสำคัญเป็นทักษะพื้นฐานที่ผู้เรียนจำเป็นต้องมีเพื่อที่จะสามารถรับสารผ่านการอ่านหรือ การฟังได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องตรงประเด็น นอกจากนี้การจับใจความสำคัญได้อย่างแม่นยำยังช่วยให้ผู้รับสาร สามารถใช้ทักษะทางภาษาขั้นสูงยิ่งขึ้น กล่าวคือ สามารถนำใจความสำคัญจากสิ่งที่ได้อ่านหรือสิ่งที่ได้ฟังมา วิเคราะห์ ตีความ ประเมินค่า และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ การจับใจความสำคัญจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้เรียน ควรศึกษาและหมั่นฝึกฝนให้เกิดความชำนาญเพื่อประโยชน์ในการศึกษาและการทำงานอื่น ๆ ต่อไป

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการอ่าน

         การอ่าน คือ การถอดรหัสจากตัวหนังสือและรูปมาเป็นความหมาย

การรู้จักความหมายของคำ

         การอ่านจะเริ่มจากผู้อ่านต้องรู้ความหมายของคำในภาษาที่อ่าน และในกรณีที่เป็นการอ่าน ออกเสียง ผู้อ่านก็ต้องสามารถแปลสัญลักษณ์ตัวอักษรกลับเป็นเสียงได้ การอ่านข้อความที่มีขนาดยาว ยิ่งผู้อ่านรู้ความหมายของคำก็จะทำให้เข้าใจเรื่องได้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม แม้จะมีบางคำที่ผู้อ่านอาจไม่รู้ความหมายมาก่อน แต่ก็สามารถพิจารณาความหมายของคำแวดล้อม ในบริบท (คำ ข้อความ หรือสถานการณ์แวดล้อมเพื่อช่วยให้เข้าใจความหมายของภาษาหรือของถ้อยคำ) ประกอบ เพื่อช่วยให้เข้าใจความหมายของข้อความได้

ความหมายของคำ

         1. คำที่มีความหมายโดยตรง หรือความหมายประจำคำ หมายถึง คำที่มีความหมายตรง ตามเนื้อความ เป็นคำที่มีความหมายประจำคำตามพจนานุกรม ซึ่งเป็นความหมายที่คนส่วนใหญ่เข้าใจตรงกัน เช่น เต่า (ความหมายโดยตรง) พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2544 ให้ความหมายว่าชื่อสัตว์เลื้อยคลานหลายวงศ์ ในอันดับ Testudines คอยาว ลำตัวสั้น มีกระดองหุ้ม กระดองมีทั้งที่เป็นแผ่นเกล็ด แข็งและที่เป็นแผ่นหนัง ขาและหางสั้นส่วนใหญ่หดเข้าไปในกระดองได้ มีถิ่นอาศัยต่าง ๆ กัน ที่อยู่บนบก เช่น เต่าเหลือง ที่อยู่ในน้ำจืด เช่น เต่านา ที่อยู่ในทะเล เช่น เต่าตนุ พวกที่มีหนังหุ้มกระดองเรียก ตะพาบ เช่น ตะพาบสวน”

         2. คำที่มีความหมายโดยนัย หมายถึง คำที่มีความหมายซ่อนเร้นอยู่ในความหมายโดยตรง เป็นความหมายของคำที่ทำให้นึกถึงสิ่งอื่น ๆ ต้องอาศัยประสบการณ์ของผู้ใช้ภาษาหรือบริบทของคำจึงจะ เข้าใจ เช่น เต่า (ความหมายโดยนัย) พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2544 ให้ความหมายว่าโดยปริยายหมายความว่า โง่ หรือ เชื่องช้า” เต่าที่เลี้ยงไว้ในสระชอบกินผักบุ้ง เธอนี่เต่าจริง ๆ ป่านนี้ยังทำงานไม่เสร็จอีกหรือ

ลักษณะของข้อความในแต่ละย่อหน้า

         ธรรมชาติของการเขียนนั้น การนำเสนอความคิดหรือความรู้ในงานเขียนมักปรากฏในรูปแบบย่อหน้า หลายย่อหน้าที่มีเนื้อความต่อเนื่องกัน ผู้เรียนจึงควรทราบก่อนว่า ในหนึ่งย่อหน้านั้นมีองค์ประกอบลักษณะใดบ้าง เพื่อจะช่วยให้หาใจความสำคัญของแต่ละย่อหน้าได้ง่ายขึ้น ในย่อหน้าหนึ่งนั้นจะมีลักษณะข้อความที่แตกต่างกัน อาจแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะใหญ่ ๆ คือ ใจความ สำคัญและส่วนขยายใจความสำคัญ

         1. ใจความสำคัญหรือความคิดหลัก (main idea) คือ ข้อความที่เป็นแก่นของเนื้อหาที่มีสาระ ครอบคลุมเนื้อความอื่น ๆ ในย่อหน้าหรือในเรื่องนั้น ๆ ใจความสำคัญนี้อาจปรากฏเป็นประโยคเรียกว่า ประโยค ใจความสำคัญ สามารถเห็นได้ชัดเจนที่ต้นย่อหน้า หรือท้ายย่อหน้า หรือกลางย่อหน้า หรือปรากฏที่ต้นและท้าย ย่อหน้า หรืออาจไม่ปรากฏประโยคใจความสำคัญให้เห็นชัดเจนแต่แฝงอยู่ในเนื้อความ

         2. ส่วนขยายใจความสำคัญหรือพลความ อาจแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ

               1. ใจความรองหรือความคิดรอง (major supporting details) คือ ข้อความที่เป็นส่วน ขยายหรือสนับสนุนใจความสำคัญเพื่อให้เกิดความกระจ่าง ทำให้เกิดความสมเหตุสมผล ทำให้ใจความสำคัญ ชัดเจนขึ้น

          2. รายละเอียด (minor supporting details) คือ ข้อความที่เป็นส่วนขยายใจความรอง หรือใจความสำคัญให้ชัดเจนยิ่งขึ้น รายละเอียดนั้นอาจเป็นการยกตัวอย่าง การเปรียบเทียบ สถิติตัวเลข การอ้างอิง คำกล่าวของบุคคล และรายละเอียดอื่น ๆ ที่เสริมความเข้ามา


สรุปเป็นรูปภาพได้ดังนี้ ครับ











💕💕💕บทความนี้ขอนำเสนอและแลกเปลี่ยนเรียนรู้เพียงเท่านี้ 


บทความหน้าจะมาต่อจากเรื่องนี้..........ครับ


ฝากติดตาม กดไลน์ กดแชร์ให้กับแอดมินด้วย นะครับ


ขอบคุณมากครับ 💕💕💕




ใหม่กว่า เก่ากว่า